ยุทธพงษ์ สืบภักดี : ครูหนุ่ม

ฟุตบอลโลก 2010 กีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติ หรือของใคร????

by on ก.ค..11, 2010, under ครูหมีขี้บ่น

วันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายแล้วของฟุตบอลโลกกีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติ ที่ 4 ปีจะมีสักครั้ง แล้ววันนี้จะมาพูดเรื่องอะไรล่ะ ฟุตบอลโลกมาเกี่ยวไรด้วย?

เรื่องของเรื่องคือปีนี้มีสิ่งที่มากระตุ้นและสะกิดใจผมและหลายๆคนให้รู้สึกตัวว่า ต่อไปนี้การที่จะดูกีฬาอะไรสักอย่างต้องเสียเงินดูแล้วไม่ใช่ของฟรีอีกต่อไป!!!!

แต่ที่มาเล่าวันนี้ไม่ใช่จะมาต่อว่าใครรึว่าวิจารณ์ใคร เดี๋ยวจะโดนไล่ออกจาก AF ได้ แต่สิ่งที่จะพูดคือ อะไรคือกลไกที่ทำให้เกิดระบบนี้ขึ้น?

ก่อนจะเล่าเรื่องก็ต้องเกรินก่อนว่า อันตัวผมนั้นไม่ใช่แฟนบอลพันธุ์แท้แต่อย่างใด ไม่ได้ติดตามรึว่ารู้จักนักกีฬาฟุตบอลเพียงแค่เห็นหลังแวปๆ ก็รู้ใครแบบนี้เป็นต้น คือสรุปว่าไมได้เป็นคอบอลง่ะครับ เพียงแต่ชอบดูกีฬาทุกประเภท ดูได้หมดที่เปิดทีวีไปเจอ บอล บาส เทนนิท กอลฟ์ อเมริกันฟุตบอล มวย ฯลฯ คือดูทุกอย่างง่ะครับ เพราะว่าการดูกีฬานี้ มันช่วยให้เราคลายเครียด สร้างความบันเทิงและเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความอยากออกกำลังกายได้เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงแบบเค้าบ้าง นี่คือเหตุผลของผม

แต่….ฟุตบอลโลกมันจะมีเสนห์ของมันเอง คือ เป็นเกมกีฬาที่แข่งกันทั่วโลก หาตัวแทนของแต่ละเขตแต่ละพื้นที่มาแข่งกัน เรียกได้ว่าเป็นสงครามโลกของกีฬาเลยที่เดียว เพราะไรถึงใช้คำว่าสงครามโลกของกีฬาครับ เพราะว่า ฟุตบอลในปัจจุบันนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศที่สื่อไปถึงการพัฒนาศักยภาพทางด้านกีฬาของประชากรในประเทศนั้นๆ เลยที่เดียว ประมาณว่า ประเทศไหนเล่นฟุตบอลดีแสดงว่าประเทศนั้นมีการพัฒนาทางด้านกีฬาดี ประชาการเล่นกีฬามาก สุขภาพดี และมีความสามารถ พัฒนาด้านกีฬา ซึ่งท่านสามารถค้นข้อมูลได้เลยว่า รอบๆประเทศเพื่อนบ้านเรามีการลงทุนและงบประมาณไปมากมายขนาดไหนในการพัฒนาทางด้านกีฬาประเภทนี้อย่างจริงจัง ยกตัวอย่างเช่น วี ลีก (V-League) เป็นลีกการแข่งขันฟุตบอลในประเทศเวียดนามก่อตั้งในปี พ.ศ. 2523 (ฤดูกาล 1980) และอีกหนึ่งเหตุผลที่ตามมานอกจากเรื่องความเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ของรัฐบาล ของประชาชน  มีประโยชน์ด้านสุขภาพ ภาพลักษณ์ที่ดี เป็นตัวอย่างของเยาวชนในประเทศให้อยากเล่นกีฬาแล้ว คือ เงิน เงิน เงิน   นี่คือเรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้

ทำไมเรื่อง เงินๆ ทองๆ ถึงมาปนกับกีฬาได้ เรื่องนี้มันก็มีมานานแล้วถ้าเราลองมองย้อนไปดูสมัยก่อนก็มีมาตั้งนานแล้ว ที่ใดมีกีฬาที่นั้นมีการใช้จ่าย และกลไกของมันเริ่มมาจากตัวนักกีฬาก่อน ทำไมถึงเริ่มที่ตัวนักกีฬา ลองมาดูกัน

นักกีฬามีความสามารถ รักกีฬา ชอบกีฬา อยากเล่น อยากแสดงฝีมือ อยากแข่งขัน เลยต้องหาที่แสดงออก —–> การแข่งขันต่างๆ เกิน 80% จัดโดยเอกชน ถึงจะเป็นของรัฐบาลแต่ก็มีเอกชนเข้ามาร่วมด้วยเสมอโดยการสนับสนุนด้านต่างๆ —–> แล้วเอกชนมาร่วมด้วยทำไม ก็อีกครับ เกือบ 80% หวังผลทางด้านการประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดี แต่ก็มีบางคน บางกลุ่มที่ช่วยด้วยความเต็มใจไม่ได้หวังผลอะไร —–> ส่วนตัวนักกีฬาเองก็ต้องกินต้องใช้ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตต่างๆ จะมาเล่นกีฬาอย่างเดียวก็ไม่ได้ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปด้วย —–> เมื่อนักกีฬาต้องกินต้องใช้ ผู้ให้การสนับสนุนก็ไม่สามารถซ้อมนักกีฬาได้เต็มที่ถ้านักกีฬาต้องไปทำงานหาเลี้ยงชีพอีกเลยต้อง จ้างนักกีฬาเหล่านี้เป็นเงินเดือนไปเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปทำงานอย่างอื่นคือจ้างมาเล่นกีฬาอย่างเดียว —–> เมื่อเกิดการลงทุนไปกับนักกีฬา ผู้สนับสนุนก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เมื่อมีค่าใช้จ่ายในเชิงธุรกิจก็ต้องคำนวนหาจุดคุ้มทุนที่ลงทุนไป —–> เมื่อจุดคุ้มทุนเกินกว่าที่จะจ่ายไหว เช่น การประชาสัมพันธ์ของผู้สนับสนุนต้องการหวังยอดขายของสินค้าในเครือ เมื่อไม่เพียงพอรึว่าจ่ายมากเกินไป ก็ต้องหาทุนเพิ่มด้วยวิธีการต่างๆ อาจจะมาจากการขายตั๋ว ขายของที่ระลึก ขายลิขสิทธิ์ต่างๆ หรือเมื่อกระทั่งขายสิทธิ์นักเตะในเครือเมื่อไม่ต้องการแล้ว —–> เมื่อทุกอย่างมันเกี่ยวกับเรื่องเงินทองมากขึ้นความซับซ้อนของธุรกิจก็มากขึ้นๆ เรื่อยๆ จนกลายเป็น ธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ ทุกอย่างเลยต้องเป็นเงินเป็นทองไปหมดทุกอย่าง —–> และในเมื่อเราอยากดูทีมที่เราชอบเล่นเราก็ต้องจ่ายเงินเพื่อให้มันครบวงจรในกระบวนการธุรกิจ ประมาณว่าเป็นผู้สนับสนุนรายย่อยเพื่อให้ทีมที่เราชอบมาเล่นกีฬาให้เราได้ดูต่อไป ซึ่งถ้าขาดพวกเราคนดู ระบบนี้ก็จะล่มสลายทันที

พอจะมองออกยังครับว่ามันมีผลอย่างไงในเมื่อมันมีการลงทุนที่มากมายขนาดนี้ มีเงินหมุนเวียนระดับหมื่นๆล้านบาท เราคงเคยได้ยินข่าวว่านักกีฬาคนหนึ่งค่าตัวระดับ 300ล้าน ค่าเบี้ยเลี้ยงอาทิตย์ละเป็นล้านบาท เงินจำนวนนี้จะเอาที่ไหนมาจ่าย ก็ต้องหาเงินมาจ่ายให้ได้จากการเก็บลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ทุกชนิด ทุกประเภท เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าใช้จ่ายและผลกำไรในการบริหารทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง ซึ่งในบ้านเราตอนนี้ก็มี ที ลีก หรือ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกแล้ว ระบบก็กำลังจะเริ่มเข้ารูปเข้ารอยคนดูก็เริ่มมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก็คงไม่พ้นเรื่องเงินๆทองๆ ต่อไปอีกเรื่อยๆ

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบอลโลกล่ะ? ในเมื่อที่พูดมานั้นเป็นบอลระดับสโมสรที่ต้องมีค่าใช่จ่ายในการก่อตั้งเอง บอลโลกเป็นกีฬาของมวลมนุษย์ชาติแล้วมันจะมีค่าใช้จ่ายอะไร ครับบอลโลกก็คือ การแข่งขันฟุตบอลรายการหนึ่งแค่นั้นเอง เพียงแต่ว่ามันเป็นการแข่งขันที่ต้องจัดทั่วโลก การที่จะจ้างทีมงานไปจัดการแข่งขันต่างๆ ทั่วโลก ทั้งกรรมการ ทีมงาน นักกีฬา ที่พัก อาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าสนาม ค่าประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ทุกอย่างต้องใช้เงินในการดำเนินการทั้งนั้น แล้วจะเอาจากไหนล่ะครับมากมายขนาดนี้ ก็แน่นอนละครับก็ต้องหาผู้ให้การสนับสนุน หรือ ที่เราคุ้นหูคือ สปอนเซอร์ ยิ่งกีฬานั้นๆ ได้รับความนิยมมากขนาดไหน ก็ยิ่งมีคนอยากให้การสนับสนุนมากตามมา เมื่อผู้ให้การสนับสนุนนั้นต้องการสนับสนุนเพระว่าหวังผลในเชิงธุรกิจจากการสนับสนุนนี้และมองเห็นแล้วคุ้มค่าแก่การลงทุน ลงทุนแล้วทำให้มีผลกำไรต่อองค์กร ก็ต้องแย่งชิงกัน และยิ่งเป็นฟุตบอลโลกที่คนทั้งโลกอยากดูอยากชม ก็ยิ่งทำให้เกิดการแย่งชิงกันอย่างมากมายและมีมูลค่ามหาศาล ผู้สนับสนุนก็ต่างต้องการได้ไว้ในครอบครองแต่เพียงผู้เดียวเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมกับผลเชิงธุรกิจ บอลโลกเลยไม่ใช่กีฬาที่จะดูฟรีอีกต่อไปแล้ว มีการแย่งลิขสิทธิ์กันอย่างมากมายในแต่ละประเทศ อย่างเช่นประเทศไทยของเรา

ผลที่ตามมาคือการถือครองสิทธิ์ในการนำเสนอ แพร่ภาพ และการควบคุมการนำไปใช้ในเชิงธุรกิจทุกอย่าง การขายสิทธิ์ในการนำไปใช้ แพร่ภาพ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลโลก อย่างบ้านเราประเทศไทย มีการขายสิทธิ์ในการแพร่ภาพ จากผู้ที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้อง โดยที่เราเห็นอยู่นี้เป็นการขายสิทธิ์ต่อมาอีกหลายทอดแล้วกว่าจะมาถึงมือผู้ถือสิทธิ์ในปัจจุบัน ใครจะนำไปเผยแพร่ต่อไม่ได้ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ทุกคน เช่น ร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่เปิดให้ลูกค้าในร้านดูต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์และขอสิทธิ์ให้ถูกต้อง ตามที่เค้ากำหนด (ร้านอาหารเพื่อนผมจ่าย 10,000 บาทในการเปิดให้ลูกค้าดู) และที่เป็นเรื่องในบ้านเราคือการตัดสัญญานจากดาวเทียมให้ชมได้แค่การถ่ายทอดสัญญานจากคลื่นความถี่เดิมของบ้านเรานั้น ก็มีผลมาจาก การที่สัญญานจากดาวเทียมนั้น ใครก็สามารถดูได้ถ้าปรับคลื่นความถี่ให้ตรงแค่นั้นเอง ซึ่งมีผลเสียต่อคนที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแต่คนอื่นไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาแต่ได้ชมฟรี เช่นประเทศเพื่อนบ้านเรา ก็เลยมีการฟ้องร้องกันจนถึงขั้นมีการตัดสัญญานการถ่ายทอดจากดาวเทียมเมื่อถึงเวลาถ่ายทอดเลยทีเดียว แต่ก็มีบางคลื่นความถี่ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปสามารถดูได้ปกติเพียงแต่ต้องซื้อของเค้ารึว่าจ่ายเงินให้เค้าแค่นั้นเอง อย่างที่บ้านผมเพิ่งติดจานใหม่ๆ ก็อดดูบอล ถึงขั้นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์รับสัญญานใหม่ (ซื้อใหม่) เพื่อจะได้ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเมื่อวานกับวันนี้ ที่กลางเมืองในจังหวัดผมมีการถ่ายทอดสดจอใหญ่เพื่อให้ทุกคนมานั่งดูนั่งชมมีการขายของ ขายเครื่องดื่มและที่นั่งให้ชมเรียบร้อย มีดนตรีให้ฟังก่อนถ่ายทอดจากวงดนตรี และแน่นอนการนำสินค้าเข้ามาขายในพื้นที่ตรงนี้ต้องเป็นสินค้าที่เป็นของผู้ให้การสนับสนุนเท่านั้น เมื่อกระทั่งเพลงจะนำมาร้องบนเวทีก็ต้องเป็นของค่ายที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น !!!!!! (ฟังมาจากนักร้องเอง) ห้ามร้องเพลงค่ายของคู่แข่งเด็ดขาด …

เห็นไหมครับว่าฟุตบอลโลก 2010 กีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติ มันวุ้นวายซับซ้อนขนาดไหน และไม่ใช่แค่ฟุตบอลโลกอีกต่อไปแล้ว ต่อไปกีฬาแทบจะทุกประเภทที่ได้รับความนิยม การแข่งขันทุกรายการที่ได้รับความนิยม (โอลิมปิคเป็นต้น) จะมีเรื่องของลิขสิทธิ์เข้ามาแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ใครจะเป็นอย่างไรต่อไปไม่อาจจะรู้ได้ เพียงแต่ก็ยังดีที่บ้านเรายังสามารถดูฟุตบอลโลกได้อย่างประเทศอื่นเค้า บางประเทศดูถ่ายทอดสดไม่ได้เลยนะครับ ต้องดูเทปการแข่งขันเอา เลวร้ายกว่าบ้านเราเยอะ ที่มาเล่าให้ฟังนี้ก็เผื่อมีคนไม่รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมต้องล็อกสัญญานก็เลยนำมาเล่าซะเลย อาจจะมีผิดบางก็ต้องขออภัยเพราะว่านี้เป็นความรู้ของผมเองที่รับรู้มาไม่ใช่นักธุรกิจมืออาชีพ รู้เป็นบางอย่าง ก็อาจจะมีประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านบ้าง ส่วนตัวผมนั้นวันนี้ก็จะดูรอบชิงชนะเลิศอย่างมีความสุขไปพร้อมๆกับเพื่อน ก็แน่นอนละ 4 ปีมีครั้งนี้แล้วผมก็คอกีฬาซะด้วยสิ เชียร์อย่างมีสตินะครับอย่าไปทุมเล่นการพนันมันจะหมดตัว กลายเป็นความทุกข์มากว่าความบันเทิง…….

Comments are closed.

Looking for something?

Use the form below to search the site:

Still not finding what you're looking for? Drop a comment on a post or contact us so we can take care of it!

Visit our friends!

A few highly recommended friends...